นายส่งศักดิ์ สายปัญญา อดีต ส.ส.เชียงราย ผู้เขียนหนังสือ เรื่องราวจากผืนแผ่นดินไทย

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป ธันวาคม พ.ศ. 2500 นับเป็น การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 10 ของประเทศไทย สืบเนื่องมาจากการที่ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำการรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ปีเดียวกันนั้น และได้แต่งตั้งให้ นายพจน์ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

การเลือกตั้งครั้งนี้ จังหวัดเชียงรายมี ส.ส ได้ 5 คน เป็นการเลือกตั้งแบบรวมเขต 

โดยผู้ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ประกอบด้วย  พันเอก นายวรการบัญชา (บุญเกิด สุตันตานนท์) สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลา นายบุญช่วย ศรีสวัสดิ์  ไม่สังกัดพรรคการเมือง (ผู้เขียนหนังสือ 30 ชาติในเชียงราย) 

และมีผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งอีก 3 ได้แก่ นายส่งศักดิ์ สายปัญญา ,นายแถม นุชเจริญ และนายประพันธ์ อัมพุช

นายแถม นุชเจริญ ต่อมาก่อตั้งพรรคชาติสยาม โดยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อปี พ.ศ.2519 

นายประพันธ์ อัมพุช (ชาวจังหวัดพะเยา เป็นส.ส.ผู้สนอพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดพะเยา โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 94 ตอนที่ 69 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2520 เป็นจังหวัดที่ 72 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2520 และต่อมาเมื่อพะเยาแยกเป็นจังหวัด ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่๓และเป็นสมัยแรกของจังหวัดพะเยา สังกัดพรรคชาติไทย 

นายส่งศักดิ์ สายปัญญา ดำรงตำแหน่งสภาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดเชียงรายได้ 2 ปีเศษ ต่อมาได้มีรัฐพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2511 และได้มีการประกาศใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีก 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2511 และพระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. 2511 จากนั้นรัฐบาลได้ประกาศกำหนดวันจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 ซึ่งเป็นไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 180 ซึ่งกำหนดให้ต้องมีการเลือกตั้งขึ้นภายใน 240 วัน ซึ่งไม่ปรากฏ ชื่อนายส่งศักดิ์ สายปัญญา ลงรับสมัครแต่อย่างใด 

เรื่องราวจากผืนแผ่นดินไทย เขียนโดยนายส่งศักดิ์ สายปัญญา จัดพิมพ์โดยบริษัท ชวาล จำกัด จำหน่ายในราคา 59 บาท เป็นการเขียนและจัดพิมพ์หลังจากที่นายส่งศักดิ์ สายปัญญา เป็นอดีต ส.ส.

นายส่งศักดิ์ สายปัญญา อดีต ส.ส.เชียงราย เป็นผู้ที่ไม่มีข้อมูลสืบค้นในสารบบข้อมูลทางการเมืองหรือด้านอื่นๆมากนัก  แต่ยังมีคนใช้นามสกุล “สายปัญญา” ในจังหวัดเชียงรายจำนวนหนึ่ง ไม่ปรากฏแน่ชัดในการเกี่ยวพันเครือญาติกันหรือไม่ ต้องสืบค้นกันต่อไป