ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จากมหาดเล็ก ร.6 สู่ ส.ส ที่เป็นรัฐมนตรีคนแรกของ”เชียงราย”

พันเอก นายวรการบัญชา (บุญเกิด สุตันตานนท์) อดีตประธานวุฒิสภา, รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย 


นายวรการบัญชา (บุญเกิด สุตันตานนท์) เป็นบุตรคนแรกของ พระพิจิตรโอสถ (รอด สุตันตานนท์) สาธารณะสุขมณฑล พายัพ  และเจ้ากาบแก้ว ณ ลำพูน  เกิดที่บ้านริมฝั่งแม่น้ำปิง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าเรียนที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง กรุงเทพมหานคร มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดสอบไล่ได้ที่ 3 เมื่อจบมัธยมศึกษาปีที่ 8 ขณะอายุ 15 ปีเศษ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เบิกตัวเข้าเฝ้าฯ และมีพระกระแสรับสั่งแต่งตั้งให้เป็น "นายรองสนิท" ตำแหน่งมหาดเล็กห้องที่พระบรรทม เมื่อปี พ.ศ. 2463 โดยทรงมอบหมายให้อยู่ในความอุปการะอบรมเลี้ยงดูและเป็นบุตรบุญธรรมของพระยาอนิรุทธเทวา (ม.ล.ฟื้น พึ่งบุญ) ต่อมามีพระราชดำริให้ส่งตัวไปศึกษาวิชาแพทย์ที่ประเทศอังกฤษด้วยทุนส่วนพระองค์ เมื่อปี พ.ศ. 2464 ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเมื่อปลายปี พ.ศ. 2468 พันเอก นายวรการบัญชา จึงเดินทางกลับมาภูมิลำเนาเดิมพักอาศัยอยู่ที่เมืองเชียงใหม่เมื่อกลับมาอยู่เชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากพระพิจิตรโอสถผู้เป็นบิดาให้ดูแลไร่นาและเก็บผลประโยชน์ที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างนั้นได้ศึกษากฎหมายจนจบเนติบัณฑิต ด้านชื่อเสียงในสังคมได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เป็นคนแรก เมื่อปี พ.ศ. 2479พ.ศ. 2480 ต่อมาได้รับเลือกเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงรายโดยลงสมัครครั้งแรกในการเลือกในปี พ.ศ.2480 ขณะนั้นอายุได้ 34 ปี ซึ่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2480 ถือเป็น การเลือกตั้งครั้งที่ 2 ของประเทศไทย นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา และการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่เป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต  
นายวรการบัญชา (บุญเกิด สุตันตานนท์) ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงรายหลายสมัย โดยลงสมัครครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งปี 2500 สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลา และมีบทบาททางการเมืองที่สำคัญ ตลอดจนดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหลายตำแหน่ง 



ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494 กบฏแมนฮัตตันขึ้น ได้มีการจี้ตัวจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีขณะเป็นประธานในพิธีรับมอบเรือขุดสันดอนสัญชาติอเมริกัน ชื่อ "แมนฮัตตัน" ที่ท่าราชวรดิฐ โดยนำไปกักขังไว้ในเรือรบหลวงชื่อ "ศรีอยุธยาต่อมาฝ่ายรัฐบาลได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งกฏอัยการศึกครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ 9 



ต่อมาในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2495 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ พันเอก นายทหารพิเศษประจำ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ 



นายวรการบัญชา (บุญเกิด สุตันตานนท์) ได้ยุติบทบาททางเมือง และเสียชิวิตวันที่ 26 มิถุนายน 2517 อายุได้ 71 ปี ณ กรุงเทพมหานคร โดยมิได้มีทายาททางการเมืองในจังหวัดเชียงรายแต่อย่างใด 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านพระยาภักดีราชกิจ (ตื๋อ ภักดี) จากโรงเรียนดรุณศึกษา ถึงแม่กกวิลล่า

ในปีพ . ศ .2428  ทางราชการได้ประกาศรวมเอาเมืองเชียงแสน เชียงราย เมือง ลำปาง เมืองฝาง เวียงป่าเป้า เมืองพะเยา เมืองเชียงคำ และเมืองเชียงของ เข้าเป็น “ จังหวัดพายัพภาคเหนือ ” อันเป็นส่วนหนึ่ง ของมณฑลพายัพ   จนกระทั่งปี พ . ศ . 2433 ได้รวมหัวเมืองต่าง ๆ ตั้งเป็นเมืองจัตวา เรียกว่า “ เมืองเชียงราย ” โดย เกณฑ์ผู้คนจากเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง มาตั้งภูมิลำเนาในเขตเมืองเชียงราย   พระยาภักดีราชกิจ( ตื๋อ  ภักดี)  มี ภริยาชื่อ ยอดเรือน เป็นชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ปลดปล่อยทาส ปี พ . ศ .2434 นายตื๋อจึงได้อพยพครอบครัวมาตั้งรกรากอยู่ที่ บ้านป่าอ้อ ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย   ต่อมา เจ้าหลวงเมืองไชย ผู้ครองนครเชียงรายในขณะนั้น ได้ชักชวนนายตื๋อ เข้ามาช่วยราชการในตัวเมือง   โดยให้เลือกทำเลตั้งบ้านเรือนได้ตามใจชอบ นายตื๋อจึงเลือกพื้นที่ทิศเหนือตรงข้ามวัดพระสิงห์ และเจ้าหลวงได้เกณฑ์ราษฎรตัดไม้สัก มาปลูกบ้านให้ และได้ช่วยราชการในเชียงราย       ...

จอมดาบทะลุฟ้า หนัง3 มิติ เรื่องแรกฉายในเชียงราย (พ.ศ.2520)

ในปี พ.ศ.2520 เชียงราย เฟื่องฟูไปด้วยโรงภาพยนตร์ ถึง 5 โรงแยกออกเป็นโซนต่างๆ ตามมุมเมือง ย่านถนนธนาลัย มีโรงหนัง สุริวงศ์ ,ราชา (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นจิระนันท์รามา) ย่านขนส่ง บขส.มีโรงหนังเชียงรายรามา 1 และ เชียงรายรามา 2 ย่าน 5 แยกพ่อขุนฯ มี โรงหนังเมืองทอง  แต่ละโรงจะเป็นโรงสายหนังแต่ละสายที่ป้อนภาพยนตร์มาตามเครือข่ายสายของตน (ก่อนหน้านี้มีโรงหนังชื่อสหดารา ปิดกิจการไปก่อนหน้านี้)  สุริวงค์ เครือโรงหนังจากเชียงใหม่(สุริวงศ์,สุริยง,แสงตะวัน) จะฉายภาพยนต์จีนกำลังภายในจาก ชอร์บราเดอร์ ฮ่องกง เป็นหลัก ภาพยนตร์ในยุคนั้นจะต้องภาคสดเสียงภาษาไทย โดยที่สุริวงค์จะมีนักภาคที่มีมุกตลกฮา ที่ชื่อ "รุจิศักดิ์ และนักภาคหญิงชื่อ นาตยา ให้เสียงภาษาไทย ดาราดังในยุคนั้นมี ตี้หลุง,เดวิดเจียง,ฟู่เซิง ฯลฯ  ราชา สถานที่ตั้งอยู่ห่างกันไม่มากนัก (ปัจจุบันเป็น ธนาคารทหารไทย สาขาเชียงราย) จะฉายภาพยนต์ไทย จากค่าย สันติสุชาภาพยนตร์(ที่โด่งดังมากคือภาพยนตร์ที่สร้างจากบทละครวิทยุ เรื่อง ชุมแพ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี รับบท เพิก ชุมแพ และภาพยนตร์ต่างประเทศบ้างเป็นบางโอกาส เช่น รถถังประจั...

สมศาสตร์ รัตนสัค ส.ส เชียงราย 7 สมัย ผู้เป็นรัฐมนตรีที่สั้นที่สุด (14 วัน)

ร้อยโท นายแพทย์สมศาสตร์ รัตนสัค เกิดเมื่อวันที่  3 กุมภาพันธ์   พ.ศ. 2474   ภูมิลำเนาอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จบมัธยมศึกษาโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่  สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี แพทยศาสตรบัณฑิต ร้อยโท นายแพทย์สมศาสตร์ รัตนสัค เป็นบุตรคนที่ 9 ของ ขุนรัตน์ ราชธน(สมบูรณ์ รัตนสัค) และนางแสงหล้า รัตนสัค(เมืองคำ) และเป็นน้องชายของนางบัวคลี่ บุณโยทยาน (มารดาของ ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน เลขาธิการพรรคสังคมนิยม) ร้อยโท นายแพทย์สมศาสตร์ รัตนสัคได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงรายครั้งแรก ในการเลือกตั้ง  พ.ศ. 2512  และได้รับเลือกเรื่อยมา จนถึง พ.ศ. 2535  รวม 7 สมัย คณะรัฐมนตรีคณะนี้สิ้นสุดลง เนื่องจากคณะรัฐมนตรีชุดนี้ได้แถลงนโยบายเพื่อขอความ ไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๘ สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติให้ความไว้วางใจใน คณะรัฐมนตรีคณะนี้ ด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม คณะรัฐมนตรีคณะนี้ จึงเป็นอันต้องพ้นจากตำแหน่งตามความในมาตรา ๑๘๗ (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักรา...