ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สมุดปกขาว เชิญชวนพี่น้องชาว”เชียงราย” จงร่วมจิตต์ร่วมใจปิดประตูเมือง โดย พันโท ณรงค์ วรบุตร (พิมพ์เมื่อ พ.ศ 2494)



มีหนังสือผู้เล่มหนึ่งเรียกว่า สมุดปกขาว เขียนขึ้นโดย พันโท ณรงค์ 
วรบุตร (ผู้ร่วม รัฐประหาร 2490 สายนายทหารนอกประจำการเป็นหนังสือปกอ่อน 87 หน้า พิมพ์ขึ้นที่โรงพิมพ์ บริษัทการพิมพ์ทหารผ่านศึก จำกัด โดยมี ..หลวงธรณีนิติญาณ เป็นผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ในท้ายหนังสือระบุปีพิมพ์ ตุลาคม พ.ศ.2494
โดยหน้าปกระบุว่า  สมุดปกขาว เชิญชวนพี่น้องชาวเชียงรายจงร่วมจิตต์ร่วมใจปิดประตูเมือง เพื่อรักษาแผ่นดินผืนใหญ่ให้คงเป็นของชาติไทยสืบไป โดยระบุเพิ่มเติมว่าโปรดรักษาไว้ให้ลูกหลานอ่านตลอดเวลา 40 ปี เพื่ออบรมให้เด็กเกิดความรู้สึกในการต่อต้านภัยของชาติตั้งแต่เยาว์วัย 


พันโทรงค์ วรบุตร สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีภริยาชื่อนางนงเยาว์ วรบุตร เป็นชาวพะเยา (ในสมัยนั้นเป็นอำเภอหนึ่งที่ขึ้นกับจังหวัดเชียงราย) พันโทณรงค์ ได้ย้ายถิ่นฐานขึ้นมาพำนักที่อำเภอพะเยา หลังจากภริยาเสียชีวิตแล้ว 


เนื้อหาในหนังสือปกขาวเล่มนี้ กล่าวถึงแผนการของต่างชาติที่มีแผนการอพยพคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยที่มิให้คนไทยรู้สึกตัว โดยยกแผนการดังกล่าวออกเป็น 4 ขั้น คือ 1.แย่งอาชีพการค้าจากคนไทย 2.แผนการยึดอาชีพกสิกรรมของคนไทย 3.ยึดที่ดินไร่นาของคนไทยด้วยการซื้อขาย 4.เพิ่มคนต่างด้าวในแผ่นดินไทย 


ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสังคมและการเมืองไทย มักจะถูกปิดบังโดยผู้มีอำนาจหรือผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์เสมอ แต่บางสิ่งดั่งคำโบราณว่า เมื่อน้ำลด ต่อผุด  ความจริงบางอย่างก็เปิดเผยขึ้นให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ ดังธรรมที่ว่า       สจฺจํ เว อมตา วาจา  ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย 
แต่ความเห็นของผมไม่ว่าเจตนาและวัตถุประสงค์ของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างไร อย่างน้อยเป็นเล่มหนึ่งที่"นักประวัติศาสตร์ควรอ่าน" 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านพระยาภักดีราชกิจ (ตื๋อ ภักดี) จากโรงเรียนดรุณศึกษา ถึงแม่กกวิลล่า

ในปีพ . ศ .2428  ทางราชการได้ประกาศรวมเอาเมืองเชียงแสน เชียงราย เมือง ลำปาง เมืองฝาง เวียงป่าเป้า เมืองพะเยา เมืองเชียงคำ และเมืองเชียงของ เข้าเป็น “ จังหวัดพายัพภาคเหนือ ” อันเป็นส่วนหนึ่ง ของมณฑลพายัพ   จนกระทั่งปี พ . ศ . 2433 ได้รวมหัวเมืองต่าง ๆ ตั้งเป็นเมืองจัตวา เรียกว่า “ เมืองเชียงราย ” โดย เกณฑ์ผู้คนจากเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง มาตั้งภูมิลำเนาในเขตเมืองเชียงราย   พระยาภักดีราชกิจ( ตื๋อ  ภักดี)  มี ภริยาชื่อ ยอดเรือน เป็นชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ปลดปล่อยทาส ปี พ . ศ .2434 นายตื๋อจึงได้อพยพครอบครัวมาตั้งรกรากอยู่ที่ บ้านป่าอ้อ ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย   ต่อมา เจ้าหลวงเมืองไชย ผู้ครองนครเชียงรายในขณะนั้น ได้ชักชวนนายตื๋อ เข้ามาช่วยราชการในตัวเมือง   โดยให้เลือกทำเลตั้งบ้านเรือนได้ตามใจชอบ นายตื๋อจึงเลือกพื้นที่ทิศเหนือตรงข้ามวัดพระสิงห์ และเจ้าหลวงได้เกณฑ์ราษฎรตัดไม้สัก มาปลูกบ้านให้ และได้ช่วยราชการในเชียงราย       ...

จอมดาบทะลุฟ้า หนัง3 มิติ เรื่องแรกฉายในเชียงราย (พ.ศ.2520)

ในปี พ.ศ.2520 เชียงราย เฟื่องฟูไปด้วยโรงภาพยนตร์ ถึง 5 โรงแยกออกเป็นโซนต่างๆ ตามมุมเมือง ย่านถนนธนาลัย มีโรงหนัง สุริวงศ์ ,ราชา (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นจิระนันท์รามา) ย่านขนส่ง บขส.มีโรงหนังเชียงรายรามา 1 และ เชียงรายรามา 2 ย่าน 5 แยกพ่อขุนฯ มี โรงหนังเมืองทอง  แต่ละโรงจะเป็นโรงสายหนังแต่ละสายที่ป้อนภาพยนตร์มาตามเครือข่ายสายของตน (ก่อนหน้านี้มีโรงหนังชื่อสหดารา ปิดกิจการไปก่อนหน้านี้)  สุริวงค์ เครือโรงหนังจากเชียงใหม่(สุริวงศ์,สุริยง,แสงตะวัน) จะฉายภาพยนต์จีนกำลังภายในจาก ชอร์บราเดอร์ ฮ่องกง เป็นหลัก ภาพยนตร์ในยุคนั้นจะต้องภาคสดเสียงภาษาไทย โดยที่สุริวงค์จะมีนักภาคที่มีมุกตลกฮา ที่ชื่อ "รุจิศักดิ์ และนักภาคหญิงชื่อ นาตยา ให้เสียงภาษาไทย ดาราดังในยุคนั้นมี ตี้หลุง,เดวิดเจียง,ฟู่เซิง ฯลฯ  ราชา สถานที่ตั้งอยู่ห่างกันไม่มากนัก (ปัจจุบันเป็น ธนาคารทหารไทย สาขาเชียงราย) จะฉายภาพยนต์ไทย จากค่าย สันติสุชาภาพยนตร์(ที่โด่งดังมากคือภาพยนตร์ที่สร้างจากบทละครวิทยุ เรื่อง ชุมแพ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี รับบท เพิก ชุมแพ และภาพยนตร์ต่างประเทศบ้างเป็นบางโอกาส เช่น รถถังประจั...

หลักหาย ศ.พณาเจือเพ็ชร นักมวยไทยที่เตี้ยที่สุดในโลก จาก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย สู่ยอดมวยลุมพินี

หลักหาย ศ . พณาเจือเพ็ชร    ได้ชื่อมาจาก เจ้าของค่ายเห็นว่าตัวเตี้ยมาก    เตี้ยเท่าหลักกิโล ที่โดนหญ้าข้างทางบัง เลยตั้งชื่อว่า หลักหาย หลักหาย ” เป็นชาว อ . แม่สรวย จ . เชียงราย ในอดีตเคยเก็บเสื้อผ้าตามมาฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายศิษย์ยอดธง ที่พัทยา ก่อนก้าวขึ้นเป็นดาวดังศึกวันทรงชัย มีค่าตัวในการชกเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เคยสูงถึง 75,000 บาท ปะทะกับนักมวยดัง ๆ มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ น้องโอ๋ ศิษย์ อ .” ยอดมวยไทยของเวทีลุมพินี รุ่งรัตน์ นราตรีกุล , วันเฮง มีนะโยธิน และ ลูกนิมิต สิงห์คลองสี่ ก็เคยชกกันมาแล้วทั้งนั้น ปัจจุบันในวัย 31 ปี หลักหาย ปักหลักฟิตซ้อมอยู่ที่ค่ายจิตเมืองนนท์ อ . บางบัวทอง ซึ่งเจ้าตัวตั้งเป้าจะขอชกอีก 4-5 ปี ก่อนแขวนนวม โดยในช่วงนี้ขอล่าเดิมพันกับเซียนมวย หรือนักมวยเก่าที่มาท้าเขาชก . หลักหาย ศ . พณาเจือเพ็ชร นักมวยที่ตัวเล็กที่สุดในโลก “ หลักหาย ” เป็นชาว อ . แม่สรวย จ . เชียงราย ในอดีตเคยเก็บเสื้อผ้าตามมาฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายศิษย์ยอดธง ที่พัทยา ก่อนก้าวขึ้นเป็นดาวดังศึกวันทรงชัย มีค่าตัวในการชกเมื่...