ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จอมดาบทะลุฟ้า หนัง3 มิติ เรื่องแรกฉายในเชียงราย (พ.ศ.2520)




ในปี พ.ศ.2520 เชียงราย เฟื่องฟูไปด้วยโรงภาพยนตร์ ถึง 5 โรงแยกออกเป็นโซนต่างๆ ตามมุมเมือง ย่านถนนธนาลัย มีโรงหนัง สุริวงศ์ ,ราชา (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นจิระนันท์รามา) ย่านขนส่ง บขส.มีโรงหนังเชียงรายรามา 1 และ เชียงรายรามา 2 ย่าน 5 แยกพ่อขุนฯ มี โรงหนังเมืองทอง  แต่ละโรงจะเป็นโรงสายหนังแต่ละสายที่ป้อนภาพยนตร์มาตามเครือข่ายสายของตน (ก่อนหน้านี้มีโรงหนังชื่อสหดารา ปิดกิจการไปก่อนหน้านี้) 


สุริวงค์ เครือโรงหนังจากเชียงใหม่(สุริวงศ์,สุริยง,แสงตะวัน) จะฉายภาพยนต์จีนกำลังภายในจาก ชอร์บราเดอร์ ฮ่องกง เป็นหลัก ภาพยนตร์ในยุคนั้นจะต้องภาคสดเสียงภาษาไทย โดยที่สุริวงค์จะมีนักภาคที่มีมุกตลกฮา ที่ชื่อ "รุจิศักดิ์ และนักภาคหญิงชื่อ นาตยา ให้เสียงภาษาไทย ดาราดังในยุคนั้นมี ตี้หลุง,เดวิดเจียง,ฟู่เซิง ฯลฯ 
ราชา สถานที่ตั้งอยู่ห่างกันไม่มากนัก (ปัจจุบันเป็น ธนาคารทหารไทย สาขาเชียงราย) จะฉายภาพยนต์ไทย จากค่าย สันติสุชาภาพยนตร์(ที่โด่งดังมากคือภาพยนตร์ที่สร้างจากบทละครวิทยุ เรื่อง ชุมแพ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี รับบท เพิก ชุมแพ และภาพยนตร์ต่างประเทศบ้างเป็นบางโอกาส เช่น รถถังประจัญบาน ฯลฯ
เชียงรายราม่า 1 นำเสนอภาพยนตร์จีนจาก โกลเด้นฮาเวสท์ โด่งดังมากในยุคนั้น "ไอ้หนุ่มพันมือ และไอ้หนุ่มหมัดเมา" ภาพยนตร์แจ้งเกิดของซุปเปอร์ สตาร์ดัง "เฉินหลง"
เชียงรายราม่า 2 ในเครือเดียวกัน ฉายภาพยนต์ไทย ที่โด่งดังยุคนั้น วัยอลวน ที่นำแสดงโดย ไพโรจน์ สังวรบุตร และลลนา สุลาวัลย์
ส่วนเมืองทองรามา ตั้งอยู่ 5 แยกพ่อขุนฯ ภาพยนตร์ที่โด่งดังมากในยุคนั้น คือ ภาพยนตร์อินเดีย "โช เลย์" ที่นำแสดงโดย อมิตาบ ปาจัน และภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง"ซุปเปอร์แมน"  





จอมดาบทะลุฟ้า ฉายในเชียงราย ปี พ.ศ.2520 ณ โรงภาพยนตร์ราชาในระบบ 3 มิติ โดยมีการแจกแว่นเพื่อใส่รับชม และต้องนำมาคืนตอนหนังจบ เรื่องนี้ นำแสดงโดย ถังเต้าเหลียง ที่เป็นชาวจีนที่เกิดและเติบโตในเกาหลีถังฝึกเทควนโดมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อย้ายกลับมาไต้หวันจึงเปิดสอน เทควนโด การใช้เท้าได้อย่างคล่องแคล่วของเขานี่เองส่งผลให้เข้าตาผู้สร้างนำเขามาเล่นภาพยนตร์เปิดมิติใหม่ของวงการหนังกังฟู ที่มีนักแสดงที่ใช้ขาได้ดี 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านพระยาภักดีราชกิจ (ตื๋อ ภักดี) จากโรงเรียนดรุณศึกษา ถึงแม่กกวิลล่า

ในปีพ . ศ .2428  ทางราชการได้ประกาศรวมเอาเมืองเชียงแสน เชียงราย เมือง ลำปาง เมืองฝาง เวียงป่าเป้า เมืองพะเยา เมืองเชียงคำ และเมืองเชียงของ เข้าเป็น “ จังหวัดพายัพภาคเหนือ ” อันเป็นส่วนหนึ่ง ของมณฑลพายัพ   จนกระทั่งปี พ . ศ . 2433 ได้รวมหัวเมืองต่าง ๆ ตั้งเป็นเมืองจัตวา เรียกว่า “ เมืองเชียงราย ” โดย เกณฑ์ผู้คนจากเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง มาตั้งภูมิลำเนาในเขตเมืองเชียงราย   พระยาภักดีราชกิจ( ตื๋อ  ภักดี)  มี ภริยาชื่อ ยอดเรือน เป็นชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ปลดปล่อยทาส ปี พ . ศ .2434 นายตื๋อจึงได้อพยพครอบครัวมาตั้งรกรากอยู่ที่ บ้านป่าอ้อ ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย   ต่อมา เจ้าหลวงเมืองไชย ผู้ครองนครเชียงรายในขณะนั้น ได้ชักชวนนายตื๋อ เข้ามาช่วยราชการในตัวเมือง   โดยให้เลือกทำเลตั้งบ้านเรือนได้ตามใจชอบ นายตื๋อจึงเลือกพื้นที่ทิศเหนือตรงข้ามวัดพระสิงห์ และเจ้าหลวงได้เกณฑ์ราษฎรตัดไม้สัก มาปลูกบ้านให้ และได้ช่วยราชการในเชียงราย       ...

หลักหาย ศ.พณาเจือเพ็ชร นักมวยไทยที่เตี้ยที่สุดในโลก จาก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย สู่ยอดมวยลุมพินี

หลักหาย ศ . พณาเจือเพ็ชร    ได้ชื่อมาจาก เจ้าของค่ายเห็นว่าตัวเตี้ยมาก    เตี้ยเท่าหลักกิโล ที่โดนหญ้าข้างทางบัง เลยตั้งชื่อว่า หลักหาย หลักหาย ” เป็นชาว อ . แม่สรวย จ . เชียงราย ในอดีตเคยเก็บเสื้อผ้าตามมาฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายศิษย์ยอดธง ที่พัทยา ก่อนก้าวขึ้นเป็นดาวดังศึกวันทรงชัย มีค่าตัวในการชกเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เคยสูงถึง 75,000 บาท ปะทะกับนักมวยดัง ๆ มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ น้องโอ๋ ศิษย์ อ .” ยอดมวยไทยของเวทีลุมพินี รุ่งรัตน์ นราตรีกุล , วันเฮง มีนะโยธิน และ ลูกนิมิต สิงห์คลองสี่ ก็เคยชกกันมาแล้วทั้งนั้น ปัจจุบันในวัย 31 ปี หลักหาย ปักหลักฟิตซ้อมอยู่ที่ค่ายจิตเมืองนนท์ อ . บางบัวทอง ซึ่งเจ้าตัวตั้งเป้าจะขอชกอีก 4-5 ปี ก่อนแขวนนวม โดยในช่วงนี้ขอล่าเดิมพันกับเซียนมวย หรือนักมวยเก่าที่มาท้าเขาชก . หลักหาย ศ . พณาเจือเพ็ชร นักมวยที่ตัวเล็กที่สุดในโลก “ หลักหาย ” เป็นชาว อ . แม่สรวย จ . เชียงราย ในอดีตเคยเก็บเสื้อผ้าตามมาฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายศิษย์ยอดธง ที่พัทยา ก่อนก้าวขึ้นเป็นดาวดังศึกวันทรงชัย มีค่าตัวในการชกเมื่...