ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2020

Hong Kong Protesters Rally Against China’s New National Security Law

เดชา บุญค้ำ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภูมิสถาปัตยกรรม) คนเชียงรายผู้ออกแบบสวนหลวง ร.๙

ศ าสตราจารย์กิตติคุณ เดชา บุญค้ำ  เกิดที่จังหวัดเชียงราย(  13 ตุลาคม พ.ศ. 2482  )จบมัธยมศึกษาจากโ รงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงรายเมื่อ พ.ศ. 2498 เตรียมอุดมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2500 และสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสถาปัตยกรรมบัณฑิต รุ่นเดียวกับ ผศ.ปราโมทย์ แตงเที่ยง, รศ.ดร.เกียรติ จิวะกุล, ผศ.อัศวิน พิชญโยธิน และ รศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. 2506 เดชา ได้เริ่มทำงานในตำแหน่งสถาปนิกโทกองแบบแผน กรมโยธาเทศบาล หรือกรมโยธาธิการและผังเมืองในปัจจุบัน เป็นเวลา 5 ปี จึงได้ลาไปศึกษาต่อปริญญาโทสาขาภูมิสถาปัตยกรรมที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในสหรัฐอเมริกา ได้รับปริญญา Master of Landscape Architecture เมื่อปี พ.ศ. 2513 หลังจากกลับมารับราชการต่อที่กรมโยธาเทศบาล (ปัจจุบันคือกรมโยธาธิการและผังเมือง) ได้ 2 ปีจึงได้โอนไปดำรงตำแหน่งวิทยากรโท สำนักนโยบายและแผน ฝ่ายสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่สังกัดกระทรวงมหาดไทย  ผลงานสำคัญของศาสตราจารย์กิตติคุณเดชา บุญค้ำ รวมทั้งการบุกเบิกวิช...

บันทึกไว้ในความทรงจำ "โรงเรียนศึกษาศาสตร์ เชียงราย ( พ.ศ. 2472 -พ.ศ. 2519 )

ย้อนความเมื่อปี พ . ศ . 2472 ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง  มีคนจีนในอำเภอเมือง เชียงรายได้รวมตัวกันประกอบด้วย นาย สี ไตรไพบูลย์ นาย ฟุ่น อุดมทรัพย์ นาย มายิ่งซัน ศิลาพงษ์ และนาย เชาว์ พงษ์สุวรรณ ได้ยื่นคำร้องขอจัดตั้งโรงเรียนจีน ชื่อว่า โรงเรียน ลีเม้งฮกเก่า ต่อทางการในหมู่ที่ 16 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง เชียงราย โดยนาย เชาว์ พงษ์สุวรรณ ได้อุทิศที่ดินส่วนตัวด้านหน้า ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่เศษ ให้จัดตั้งโรงเรียน มีการดำเนินงานก่อสร้างโดยใช้เวลาร่วม 2 ปี จึงเปิดการเรียนการสอนในปี พ . ศ . 2474  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติลง นายเชาว์ พงษ์สุวรรณ ได้ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนชื่อโรงเรียนใหม่ ชื่อว่า โรงเรียน กุงลิกุงหมิงเซี๊ยเซี่ยว เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ปี พ . ศ . 2489 จนถึง พ . ศ . 2495  ในปีต่อมา พ . ศ . 2496 นายเชาว์ พงษ์สุวรรณ ได้ขอเปลี่ยนการเรียนการสอนมาในรูปแบบโรงเรียนไทย โดยได้รับอนุญาตใช้ชื่อว่า โรงเรียน " ศึกษาศาสตร์ " ผลิตบุคลากรฯออกมารับใช้สังคมมากมาย ทั้งสร้างคุณประโยชน์นานับประการ   หลั...

จอมดาบทะลุฟ้า หนัง3 มิติ เรื่องแรกฉายในเชียงราย (พ.ศ.2520)

ในปี พ.ศ.2520 เชียงราย เฟื่องฟูไปด้วยโรงภาพยนตร์ ถึง 5 โรงแยกออกเป็นโซนต่างๆ ตามมุมเมือง ย่านถนนธนาลัย มีโรงหนัง สุริวงศ์ ,ราชา (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นจิระนันท์รามา) ย่านขนส่ง บขส.มีโรงหนังเชียงรายรามา 1 และ เชียงรายรามา 2 ย่าน 5 แยกพ่อขุนฯ มี โรงหนังเมืองทอง  แต่ละโรงจะเป็นโรงสายหนังแต่ละสายที่ป้อนภาพยนตร์มาตามเครือข่ายสายของตน (ก่อนหน้านี้มีโรงหนังชื่อสหดารา ปิดกิจการไปก่อนหน้านี้)  สุริวงค์ เครือโรงหนังจากเชียงใหม่(สุริวงศ์,สุริยง,แสงตะวัน) จะฉายภาพยนต์จีนกำลังภายในจาก ชอร์บราเดอร์ ฮ่องกง เป็นหลัก ภาพยนตร์ในยุคนั้นจะต้องภาคสดเสียงภาษาไทย โดยที่สุริวงค์จะมีนักภาคที่มีมุกตลกฮา ที่ชื่อ "รุจิศักดิ์ และนักภาคหญิงชื่อ นาตยา ให้เสียงภาษาไทย ดาราดังในยุคนั้นมี ตี้หลุง,เดวิดเจียง,ฟู่เซิง ฯลฯ  ราชา สถานที่ตั้งอยู่ห่างกันไม่มากนัก (ปัจจุบันเป็น ธนาคารทหารไทย สาขาเชียงราย) จะฉายภาพยนต์ไทย จากค่าย สันติสุชาภาพยนตร์(ที่โด่งดังมากคือภาพยนตร์ที่สร้างจากบทละครวิทยุ เรื่อง ชุมแพ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี รับบท เพิก ชุมแพ และภาพยนตร์ต่างประเทศบ้างเป็นบางโอกาส เช่น รถถังประจั...

บ้านพระยาภักดีราชกิจ (ตื๋อ ภักดี) จากโรงเรียนดรุณศึกษา ถึงแม่กกวิลล่า

ในปีพ . ศ .2428  ทางราชการได้ประกาศรวมเอาเมืองเชียงแสน เชียงราย เมือง ลำปาง เมืองฝาง เวียงป่าเป้า เมืองพะเยา เมืองเชียงคำ และเมืองเชียงของ เข้าเป็น “ จังหวัดพายัพภาคเหนือ ” อันเป็นส่วนหนึ่ง ของมณฑลพายัพ   จนกระทั่งปี พ . ศ . 2433 ได้รวมหัวเมืองต่าง ๆ ตั้งเป็นเมืองจัตวา เรียกว่า “ เมืองเชียงราย ” โดย เกณฑ์ผู้คนจากเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง มาตั้งภูมิลำเนาในเขตเมืองเชียงราย   พระยาภักดีราชกิจ( ตื๋อ  ภักดี)  มี ภริยาชื่อ ยอดเรือน เป็นชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ปลดปล่อยทาส ปี พ . ศ .2434 นายตื๋อจึงได้อพยพครอบครัวมาตั้งรกรากอยู่ที่ บ้านป่าอ้อ ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย   ต่อมา เจ้าหลวงเมืองไชย ผู้ครองนครเชียงรายในขณะนั้น ได้ชักชวนนายตื๋อ เข้ามาช่วยราชการในตัวเมือง   โดยให้เลือกทำเลตั้งบ้านเรือนได้ตามใจชอบ นายตื๋อจึงเลือกพื้นที่ทิศเหนือตรงข้ามวัดพระสิงห์ และเจ้าหลวงได้เกณฑ์ราษฎรตัดไม้สัก มาปลูกบ้านให้ และได้ช่วยราชการในเชียงราย       ...

"สามเณรคำอ้าย วัดนางแล"เชียงราย สู่ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต) "พระผู้ให้แก่สังคม"

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์  มีนามเดิมว่า สุวรรณ เขื่อนเพ็ชร เกิดเมื่อวันที่  5 มิถุนายน   พ.ศ. 2463  แรม 4 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก ณ บ้านนางแล ตำบลนางแล อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงราย  โยมมารดาชื่อ ขันแก้ว เวียงมูล โยมบิดาชื่อ จี วงศ์เรืองศรี เมื่อเกิดมาอาจารย์ได้ให้ชื่อไว้ในดวงชะตา (ใบลานจารเขียน) วัน เดือน ปี และเวลาเกิด พร้อมกับแจ้งชื่อพ่อและแม่ไว้ด้วยว่า “ดวงทิพย์” ภายหลังในฐานะเป็นบุตรคนหัวปี จึงมีชื่อเรียกกันว่า “คำอ้าย” และใช้ชื่อคำอ้ายนี้ตลอดมา จนถึงเวลาได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร ก็มีชื่อว่า สามเณรคำอ้าย แต่เมื่อมาอยู่กรุงเทพมหานคร อาจารย์ได้เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า สุวรรณ ได้ชื่อฉายาจากพระอุปัชฌาย์ว่า สุวณฺณโชโต บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2477 ณ วัดนางแล ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมีพระครูสุตาลังการ วัดกลางเวียง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์  อุปสมบท วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2483 ตรงกับวันแรม 6 ค่ำเดือน 6 ปีมะโรง ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต...

น.ส.อัมพร บุรารักษ์ สาวงามจากอำเภอพาน เชียงราย สู่ นางสาวไทย ปีพ.ศ.2493

อัมพร บุรารักษ์ นางสาวไทย ปีพ . ศ .2493 '' อัมพร ''  เป็นบุตรสาวคนโตในจำนวน 7 คนของนายบุญส่ง ข้าราชการอำเภอพาน   ได้รับการทาบทามจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายส่งเข้าประกวดในนามของจังหวัดเชียงราย น . ส . อัมพรเป็นนางสาวไทยคนที่ 9 ของประเทศไทย และเป็นสาวเหนือคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งนางสาวไทย เธอได้รับตำแหน่งขณะอายุ 18 ปี   เมื่อรัฐมนตรีมหาดไทย   พระยา รามราชภักดี   ขึ้นมาตรวจราชการที่จังหวัดเชียงราย   ได้แวะไปเยี่ยมที่บ้านของบิดา น . ส . อัมพร   ที่ อำเภอพาน   สาเหตุจากได้ถามเรื่องการส่งคนเข้าประกวดนางสาวไทยจากผู้ว่าราชการจังหวัด    พันตำรวจโทขุนวีรเดชกำแหง (ชม จารุสิทธิ์)  ผู้ว่าฯ   ก็แนะนำท่านให้มาดูตัว  หลังจากนั้น  พระยา รามราชภักดี แจ้ง กับผู้ว่าฯ   ว่าให้เลือก นส . อัมพร เป็นตัวแทน จังหวัดเชียงราย   เพื่อส่งไปประกวดที่กรุงเทพฯ    ขณะที่การประกวดรอบสุดท้าย ก่อนมีการประกาศชื่อผู้ชนะเลิศนางสาวไทย ประชาชนเรือนหมื่น ต่างปรบมือเปล่งเสียง"อัมพร เชียงราย" เกรียวกราวสนั่นห...

สมุดปกขาว เชิญชวนพี่น้องชาว”เชียงราย” จงร่วมจิตต์ร่วมใจปิดประตูเมือง โดย พันโท ณรงค์ วรบุตร (พิมพ์เมื่อ พ.ศ 2494)

มีหนังสือผู้เล่มหนึ่งเรียกว่า สมุดปกขาว เขียนขึ้นโดย พันโท  ณ รงค์   วรบุตร ( ผู้ร่วม รัฐประหาร 2490 สายนายทหารนอกประจำการ )  เป็นหนังสือปกอ่อน 87 หน้า พิมพ์ขึ้นที่โรงพิมพ์ บริษัทการพิมพ์ทหารผ่านศึก จำกัด โดยมี พ . อ . หลวงธรณีนิติญาณ เป็นผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ในท้ายหนังสือระบุปีพิมพ์ ตุลาคม  พ.ศ.2494 โดยหน้าปกระบุว่า   สมุดปกขาว เชิญชวนพี่น้องชาว ” เชียงราย ” จงร่วมจิตต์ร่วมใจ ” ปิดประตูเมือง เพื่อรักษาแผ่นดินผืนใหญ่ให้คงเป็นของชาติไทยสืบไป โดยระบุเพิ่มเติมว่า “ โปรดรักษาไว้ให้ลูกหลานอ่านตลอดเวลา 40 ปี เพื่ออบรมให้เด็กเกิดความรู้สึกในการต่อต้านภัยของชาติตั้งแต่เยาว์วัย   พันโท ณ รงค์   วรบุตร  สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีภริยาชื่อนางนงเยาว์ วรบุตร เป็นชาวพะเยา (ในสมัยนั้นเป็นอำเภอหนึ่งที่ขึ้นกับจังหวัดเชียงราย) พันโทณรงค์ ได้ย้ายถิ่นฐานขึ้นมาพำนักที่อำเภอพะเยา หลังจากภริยาเสียชีวิตแล้ว  เนื้อหาในหนังสือปกขาวเล่มนี้ กล่าวถึงแผนการของต่างชาติที่มีแผนการอพยพคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศไทย...

ชูสง่า ไชยพันธ์ุ(ฤทธิประศาสน์) รัฐศาสตร์ สิงห์ดำ+แดง รุ่น แพแตก ผู้ว่า 4 จังหวัด ส.ส เชียงราย,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ชูสง่า ไชยพันธ์ุ ( ฤทธิประศาสน์ ) อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง , นครนายก , สมุทรสงคราม และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย 2 สมัย สังกัดพรรคชาติไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ   นายชูสง่า เกิดเมื่อ 11 ตุลาคม 2457 ตำบลเตาสุรา อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เดิมใช้นามสกุล ไชยพันธุ์ ต่อมาเปลี่ยนเป็น ฤทธิ์ประศาสน์ ตามราชทินนามของบิดาคือ หลวงฤทธิประสาสน์ ( อดีตนายอำเภอบางคล้า ) จบการศึกษามัธยมที่โรงเรียนเทพศรินทร์ และเข้าศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ . ศ .2576 แต่ศึกษาได้เพียง 1 ปี เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คณะรัฐศาสตร์จุฬาถูกยุบ ไปรวมกับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ได้ปริญญา ธรรมศาสตร์บัญฑิตเมื่อ ปี พ . ศ . 2480 ชื่อรุ่นนี้เรียกกันว่ารุ่น “ แพแตก ” ต่อมารุ่นนี้ได้บรรจุเป็นนักปกครองระดับสูงเป็นจำนวนมาก     ชูสง่า ไชยพันธ์ุ ( ฤทธิประศาสน์ ) ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวั...

นายส่งศักดิ์ สายปัญญา อดีต ส.ส.เชียงราย ผู้เขียนหนังสือ เรื่องราวจากผืนแผ่นดินไทย

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป ธันวาคม พ . ศ . 2500 นับเป็น การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 10 ของประเทศไทย สืบเนื่องมาจากการที่ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำการรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป . พิบูลสงคราม ขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ปีเดียวกันนั้น และได้แต่งตั้งให้ นายพจน์ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งนี้ จังหวัดเชียงรายมี ส . ส ได้ 5 คน เป็นการเลือกตั้งแบบรวมเขต   โดยผู้ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ประกอบด้วย   พันเอก นายวรการบัญชา ( บุญเกิด สุตันตานนท์ ) สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลา   นายบุญช่วย ศรีสวัสดิ์   ไม่สังกัดพรรคการเมือง  ( ผู้เขียนหนังสือ 30 ชาติในเชียงราย )  และมีผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งอีก 3 ได้แก่   นายส่งศักดิ์ สายปัญญา , นายแถม นุชเจริญ  และ นายประพันธ์   อัมพุช นายแถม   นุชเจริญ   ต่อมาก่อตั้งพรรคชาติสยาม   โดยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค   เมื่อปี   พ . ศ .2519  นายประพันธ์ อัมพุช ( ชาวจังหวั...